วันจันทร์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2560

สำนวนที่เกี่ยวกับ “เกลือ”

อารีรัตน์  ใจอารีย์ (ผู้เขียน)
                                                    ภาพจาก http://www.clip007.com/news-187378
            สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านค่ะ เมื่อวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้เขียนเดินทางกลับบ้านที่จังหวัดสิงห์บุรี กลับมา รอบนี้ไม่เสียเปล่าได้มาเห็นวิธีทำปลาช่อนแดดเดียวของแม่ ที่มีวิธีการทำไม่ยุ่งยากมากนักโดยผสมเครื่องปรุงคลุกเคล้ากับตัวปลาแล้วหมักทิ้งไว้ ต่อจากนั้น ก็นำไปตากแดด ให้ปลาแห้งทั้งสองด้าน เพียงเท่านี้ ก็สามารถนำปลามาทอดรับประทานได้แล้ว แต่กว่าที่จะมาเป็นปลาช่อนแดดเดียวให้เรารับประทานกัน หัวใจสำคัญของกรรมวิธีการทำปลาช่อนแดดเดียวที่จะขาดไปไม่ได้เลย นั่นก็คือ “เกลือ” นั่นเอง
             “เกลือ” หมายถึง วัตถุที่มีรสเค็ม ใช้ประกอบอาหาร เป็นของใช้ที่จำเป็นคู่กับคนไทยมาตั้งแต่สมัยโบราณ แทบทุกบ้านจะต้องมีเกลือติดบ้านไว้ เหมือนมีข้าวสารไว้ติดครัว เพราะสามารถนำมาใช้ประกอบอาหารได้หลายอย่าง และที่สำคัญ เกลือ ยังใช้ถนอมอาหารได้ดี ทำให้อาหารเหล่านี้เก็บรักษาได้เป็นเวลานาน
             สมัยโบราณ เกลือมีราคาแพง เพราะเป็นสิ่งที่มีค่า หายาก จึงมีใช้แค่บางท้องที่ เช่น เมืองที่อยู่ติดกับทะเล   ไม่เหมือนกับพืชที่สามารถปลูกเองได้ เกลือมีแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์และมีความจำเป็นต่อร่างกายเป็นอย่างมาก        ช่วยคลายความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า ป้องกันโรคความจำเสื่อม คอหอยพอก โรคกระเพาะ ฟันผุ และกระดูกผุ
                                                          ภาพจาก https://goo.gl/769Oml
           คนในสมัยโบราณ มักนำสิ่งที่อยู่รอบ ๆ ตัวมาใช้ดัดแปลงเป็นสำนวนเปรียบเทียบใช้อบรมสั่งสอน เราจึงพบว่า มีสำนวนที่เกี่ยวกับ “เกลือ” เกิดขึ้นมากมาย เช่น “อย่าเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ” หมายถึง การลดตัวเองไปเกลือกกลั้ว เพื่อกระทำการใด ๆ กับสิ่งที่ต่ำกว่า จะมีแต่เสียหายกับตนเองเปล่า ๆ เพราะเราถือว่า พิมเสนกับเกลือ ต่างกันโดยสิ้นเชิง โดยถือว่า พิมเสนเป็นของมีค่าส่วนเกลือเป็นของไร้ค่า สำนวนนี้ยังปรากฏในเรื่อง พระอภัยมณี ตอน โจรสุหรั่งเตรียมรบกับสินสมุทร โจรสุหรั่งได้เลี้ยงเหล้า ปลุกใจลูกน้อง มีกลอนบทหนึ่งที่อุศเรนพูดกับหัสเกนว่า
            “รบคราวนี้ตีทับเหมือนจับเสืย
ถึงเสียเกลือแต่ให้ได้พิมเสน
ทหารเราเล่าก็หัดไว้ชัดเจน
       หัสเกนเห็นใครถอยมึงคอยแทง”
          นอกจากนั้นยังพบสำนวนนี้ในโคลงพระราชพงศาวดาร ตอนสมเด็จพระนเรศวรปีนค่ายพม่า ของสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยาภานุพันธุ์วงศ์วรเดช ว่า
                                                     “หนาวจิตอมิตรร้อง      เอออะไร  นเรศวร์ฤา
                                                องอาจปลอมไพร่ใน          เกิดสู้
                                                พิมเสนแลกเกลือไกล         กันนัก  
                                                นาพ่อชะรอยบิดรห่อนรู้      เร่งให้จับเป็น”
            นอกจากนี้ยังมีสำนวนที่เกี่ยวข้องกับเกลืออีกหลายสำนวน เช่น “เกลือจิ้มเกลือ” หมายถึง การเอาคืน      
แก้แค้นฝ่ายตรงข้ามอย่างสาสม ไม่ยอมเสียเปรียบ เช่น ก็คุณไปเอาเปรียบเขาก่อน ขายของตัดราคาร้านอื่น พอเขาเกลือจิ้มเกลือ ลดราคาให้ถูกกว่าของคุณ คุณกลับไปร้องเรียนกล่าวหาเขา
          “เกลือเป็นหนอน” หมายถึง คนในบ้านคิดทรยศ เพราะจริง ๆ แล้วเกลือไม่สามารถจะกลายเป็นหนอนได้ อีกทั้งยังช่วยกันไม่ให้บางสิ่งบางอย่างกลาย เป็นหนอนได้อีกด้วย เช่น ใช้เกลือทำปลาเค็มหรือปลาแดดเดียว เหมือนกับคนในบ้าน เมื่อได้รับการอบรม เลี้ยงดู ก็ย่อมต้องกตัญญูรู้คุณคนที่เลี้ยงดู แต่หากคิดไม่ดีกับคนที่เลี้ยงดู ก็เหมือน กับเกลือเป็นหนอน
             ในขณะเดียวกันเราก็มักจะได้ยินสำนวนที่ว่า “ใกล้เกลือกินด่าง” หมายถึง สิ่งที่หาได้ง่ายหรืออยู่ใกล้ตัวที่มีค่า มีประโยชน์กว่ากลับไม่เอา แต่กลับไปเอาสิ่งที่อยู่ไกลหรือหายากที่ด้อยค่ากว่ามาใช้    สำนวนนี้มาจากการเปรียบเทียบค่าของ เกลือ กับ ด่าง  เกลือ เป็นวัตถุที่มีรสเค็ม เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตในการใช้ประกอบอาหาร และยา สมัยโบราณเกลือเป็นสิ่งที่มีค่า ราคาแพง เพราะหายาก เกลือมีแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์และมีความจำเป็นต่อร่างกาย ส่วนด่างเป็นของไม่มีราคา ทำขึ้นได้ง่าย โดยใช้น้ำแช่ขี้เถ้า มีรสกร่อย ใช้สำหรับทำยา และกัดสิ่งของ ซึ่งจะนำมาใช้แทนเกลือไม่ได้ เมื่อพิจารณาประโยชน์ของเกลือและด่างแล้ว จะเห็นว่าเกลือจึงมีประโยชน์มากกว่าด่าง
          แต่ในปัจจุบัน เกลือกลายเป็นของที่หาซื้อได้ง่าย ไม่เหมือนในสมัยโบราณ และยังมีเครื่องปรุงแบบใหม่ ๆ เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก คนส่วนใหญ่จึงมองข้ามความสำคัญของเกลือไป ดังสำนวน “แกงจืดจึงรู้คุณเกลือ” หมายถึง รู้ค่าสิ่งของต่าง ๆ ที่เรามองข้าม  ไม่สนใจ ก็ต่อเมื่อไม่มีของสิ่งนั้นแล้ว ดังตัวอย่าง  นี่แหละหนาแกงจืดจึงรู้คุณเกลือ ฉันทำงานด้วยใจ ทุ่มเทเพื่อบริษัทมา 10 กว่าปี ตลอดการทำงานที่นี่เจ้านายไม่เคยเห็นคุณค่า ถูกมองข้ามเสมอ แต่พอฉันลาออกมาแล้วค่อยมาเห็นความสำคัญ แถมยังจะมาขอร้องให้กลับไปช่วยงานเหมือนเดิม
          จะเห็นได้ว่า สิ่งเล็ก ๆ รอบตัวเรา ล้วนมีความหมายและความสำคัญทั้งสิ้น แต่ในบางครั้งเราอาจจะมองข้ามไป เพราะมองเห็นสิ่งที่ดีกว่า ซึ่งก็เหมือนกับ “เกลือ” ดังที่ผู้เขียนได้ยกตัวอย่างไปให้เห็นข้างต้นว่า “เกลือ” เป็นสิ่งที่อยู่กับคนไทยมาตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน เพียงแต่ความสำคัญดูจะลดน้อยถอยลง เพราะมีสิ่งใหม่ ๆ เข้ามาทดแทน ดังคำที่ว่า “จะเห็นคุณค่าก็ต่อเมื่อสูญเสียสิ่งนั้นไปแล้ว”

อ้างอิง
ราชบัณฑิตยสถาน. (2556). ใกล้เกลือกินด่าง. สืบค้น พฤศจิกายน 20, 2559, จาก https://goo.gl/0qBl6w
ราชบัณฑิตยสถาน. (2553). เกลือ. สืบค้น พฤศจิกายน 20, 2559, จาก https://goo.gl/tH4AZh

1 ความคิดเห็น: